'รมช.มนัญญา' ตรวจเยี่ยมสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ชื่นชม ดำเนินกิจการได้ดีจนได้รับรางวัลดีเด่น ถึง 3 ครั้ง
วันที่ 3 มีนาคม 2564 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายประกอบ เผ่าพงศ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายปรัชญา ดิลกสัตยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 นางวิวาห์พร ลักษณะโภคิณ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 2 สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 และนายเรืองชัย โพนพุฒ ผู้อำนวยการกลุ่มตรวจการสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1
.
โดย รมช.มนัญญา กล่าวว่า นโยบายในการบริหารของตนเองต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศคือการส่งเสริมให้มีการบริหารโดยหลักธรรมาภิบาล และพยายามไปเยี่ยมให้ได้มากที่สุด เพื่อพูดคุยกับทุกฝ่ายและช่วยแก้ไขปัญหา ขจัดข้อร้องเรียนของสมาชิกของสหกรณ์นั้น ๆ ให้กิจการสหกรณ์ส่งประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด ที่เป็นแบบอย่างที่ดีระดับประเทศ และได้รับรางวัลสหกรณ์ออมทรัพย์ดีเด่นแห่งชาติถึง
3 ครั้ง
สำหรับกรณีของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับข้อร้องเรียนของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ไว้เพื่อสอบสวนกรณีอดีตกรรมการสหกรณ์บางคนนั้น ก็ขอให้สหกรณ์ช่วยกันเร่งติดตาม และส่งข้อมูลให้ดีเอสไอเพื่อให้สามารถพิจารณาให้เกิดความชัดเจนได้เร็วที่สุด
.
ในส่วนของการเลือกตั้งกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ฯ ที่กำลังมีประเด็น ขอให้ใช้หลักธรรมาภิบาลในการหาทางออกเช่นกัน ซึ่งเบื้องต้น ว่าที่ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ได้แสดงสปิริต โดยกล่าวต่อที่ประชุม ที่จะไม่ขอรับตำแหน่งในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 แม้จะได้รับการหยั่งเสียงเลือกตั้งฯ เพื่อให้ดำรงตำแหน่งแล้วก็ตาม ถือว่า เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณในน้ำใจที่ท่านมีต่อองค์กร รมช.กล่าวทิ้งท้าย
ผศ.ดร.วีระพันธ์ รังสีวิจิตรประภา ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ และ ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ รองประธานฯ กล่าวขอบคุณ รมช.เกษตรฯ ที่รับทราบปัญหา และช่วยหาทางออกให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ อย่างไร ก็ตามกรณีว่าที่ประธานฯ ได้กล่าวต่อที่ประชุมแสดงเจตนายังไม่ขอรับตำแหน่งในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้น ก็จะเป็นอีกทางออกเพื่อให้สมาชิกร่วมกันทบทวนและหาทางออกในการบริหารงานของสหกรณ์นี้ต่อไป
